๒๕๔๕

การจัดสร้างบานประตูประดับมุก หอพระมณเฑียรธรรม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
พ.ศ. ๒๕๔๕ - ๒๕๕๕

  บานประตูประดับมุกหอพระมณเฑียรธรรม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เดิมเป็นบานประตูของวัดบรมพุทธาราม สร้างขึ้นใน พ.ศ.๒๒๙๔ รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โดยเป็นบานประตูที่มีสภาพสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน และภายหลังได้นำมาติดตั้งไว้ ณ หอพระมณเฑียรธรรม จนถึง พ.ศ. ๒๕๔๕ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริกับอธิบดีกรมศิลปากรในขณะนั้นคือ พล.อ.ต. อาวุธ เงินชูกลิ่น ถึงความเป็นห่วงบานประตูประดับมุกหอพระมณเฑียรธรรม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ด้วยการติดตั้งบานประตูประดับมุกอยู่ที่ด้านทิศตะวันตกของหอพระมณเฑียรธรรม ทำให้เกิดความชำรุดเสียหายจากแสงแดดทิศตะวันตกและฝน ทำให้มุกและยางรักเสื่อม ทรุดโทรมและชำรุดให้เห็นเป็นจุดๆ มากขึ้นทุกๆ ปี จึงมีพระราชดำริให้กรมศิลปากรดำเนินการบูรณะซ่อมแซม แล้วนำของเก่าเข้าเก็บในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร และให้กรมศิลปากรจัดทำของใหม่นำมาติดตั้งทดแทน ณ ตำแหน่งเดิม

  โครงการนี้ สืบเนื่องมาถึงอธิบดี นายอารักษ์ สังหิตกุล รับสนองพระราชดำริ จึงได้ตั้งโครงการซ่อมบูรณะ และจัดสร้างบานประตูประดับมุก หอพระมณเฑียรธรรม วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ใช้เวลาดำเนินงานระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๕ จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยเป็นทั้งการอนุรักษ์บานประตูเดิม และสืบทอดองค์ความรู้งานช่างประดับมุกให้กับช่างรุ่นใหม่ไปด้วย และยังทรงพระกรุณา เสด็จฯ มาทรงประดับมุกที่อุณาโลม ในบานประตูประดับมุก หอพระมณเฑียรธรรม ที่จัดสร้างขึ้นใหม่ ในโอกาสที่เสด็จฯมาเปิดงานนิทรรศการเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี พ.ศ.๒๕๕๔ เรื่อง “ช่างหลวง”อีกด้วย

ขั้นตอนการประดับมุก